ประชุม กพช.หารือสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่
นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช.ที่ทำเนียบรัฐบาล ล่าสุดที่ประชุมมีมติให้สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ จ.กระบี่ ต่อไป ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมหลังทราบผลการประชุมอยู่ระหว่างกำหนดท่าทีเคลื่อนไหว
ทางเลือกในการแก้ปัญหาพลังงานไฟฟ้าในภาคใต้ที่หยิบขึ้นมาพิจารณาในที่ประชุมวันนี้ มี 3 ทางเลือก ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันว่า จะไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินเด็ดขาด
ข้อมูลปีที่แล้ว พบว่า ใน 14 จังหวัดภาคใต้ ใช้พลังงานไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 2,630 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนๆ ถึง 4% แต่ผลิตได้จริงแค่ 2,000 กว่าเมกะวัตต์ ขาดอยู่อีก 305 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม
ทางเลือกขณะนี้ มี 3 ทาง คือ
1. สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จังหวัดกระบี่ กำลังการผลิตไฟฟ้า 800 เมกะวัตต์ เป็นถ่านหินสะอาดและใช้ระบบอัลตร้า ซูเปอร์ คริติคอล ที่ไม่มีมลภาวะ
2. ก่อสร้างสายส่งเพิ่ม เพื่อดึงไฟฟ้าจากส่วนกลางลงไปเสริมภาคใต้
3. ให้องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ โซล่าร์ฟาร์มราชการ ซึ่งกฎหมายเปิดช่องไว้ให้ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ย้ำเรื่องการสร้างความมั่นคงทางพลังงานที่ต้องไม่กระทบสิ่งแวดล้อม และประชาชนในพื้นที่
และในระหว่างที่นายกรัฐมนตรี ประชุมกันอยู่ที่ตึกสันติไมตรี ด้านนอกริมถนนพิษณุโลก ได้มีกลุ่มมวลชนมารวมตัวกันเพื่อคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินเวียนเทียนรอบทำเนียบรัฐบาล เพื่อประกาศจุดยืนว่า ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ทั้งที่อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา และ อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ เพราะจะเกิดมลภาวะกับ 14 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญระดับโลก เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่น โดยให้ใช้พลังงานทดแทนจากปาล์มน้ำมันแทน เพราะคนในพื้นที่ปลูกกันมาก ซึ่งนอกจากจะไม่มีผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนด้วย