นายกฯ ตรวจภัยแล้งจังหวัดอุดรธานี
นายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะการเพิ่มน้ำต้นทุน รวมถึงการช่วยเหลือเรื่องที่ดินทำกิน และการพัฒนาอาชีพ
เป้าหมายการเดินทางไปจังหวัดอุดรธานี นอกจากจะมอบความช่วยเหลือตามโครงการแก้ปัญหาภัยแล้งทั้งหนังสืออนุญาตใช้ประโยชน์ที่ดินทำกิน และ การพัฒนาอาชีพ ตามมาตรการที่ 4 ระยะที่ 2 จำนวน 18 โครงการ วงเงิน 8 ,200,000 บาท ยังได้ไปดูตัวอย่างชุมชนหมู่ 1 บ้านจอมศรี ที่นำงบประมาณภาครัฐมาต่อยอดสร้างประตูเปิด-ปิดน้ำ และคลองส่งน้ำหนองมัก จนมีแหล่งน้ำชุมชนสอดคล้องตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และ นำกลไกประชารัฐมาขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชน
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้พบปะประชาชน ภายในหอประชุมโรงเรียนพิทยาคาร ประเด็นสำคัญย้ำว่าภัยแล้งเป็นปัญหาที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันแก้ไขทั้งระบบ โดยเฉพาะประชาชน เพราะหากขาดการมีส่วนร่วม ลำพังเพียงภาครัฐไม่สามารถแก้ปัญหาได้ สำหรับการเดินทางมาที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มาจากทิศทางปริมาณน้ำที่ยังวิกฤต ล่าสุด ข้อมูลจากกรมชลประทาน พบว่ามีน้ำใช้การไดัเพียงร้อยละ 18 จุดที่น่าห่วง คือ เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ปัจจุบันมีน้ำเหลือเพียง ร้อยละ 2 ต้องใช้น้ำก้นอ่างเพื่อให้เพียงพอตลอดช่วงภัยแล้ง
ซึ่งปัญหาใหญ่ขณะนี้ คือ การขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภค-บริโภค ล่าสุด รัฐบาลจึงต้องเร่งเพิ่มน้ำต้นทุนบรรเทาผลกระทบ ซึ่งส่วนหนึ่งใช้การดึงน้ำจากแม่น้ำโขงชั่วคราว 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 15 พ.ค.ส่งผลให้มีน้ำ 510,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน เข้าไปเติมในลำน้ำห้วยหลวง จังหวัดหนองคาย ต่อเนื่องมาจังหวัดอุดรธานี เพื่อการอุปโภค-บริโภค และยังชีพ เฉพาะหน้าช่วงภัยแล้ง
ส่วนความเป็นไปได้ในการดึงน้ำมาใช้ถาวร ทั้งลุ่มน้ำห้วยหลวง รวมถึงภาคอีสานตอนกลาง ยังอยู่ระหว่างศึกษา ซึ่ง หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมโครงการ ชลประทานหนองคาย ระบุว่าโครงการเริ่มต้นจะมีการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยหลวง โดยติดตั้งประตูระบายน้ำอัตราสูงสุด 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มน้ำได้ถึง 245 ล้านลูกบาศก์เมตร
ขณะที่อีกความพยายามเน้นไปที่น้ำทางเลือก ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำบาดาลตั้งเป้าปี 2559 ในพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด จะดำเนินการให้แล้วเสร็จ 1,510 บ่อ เพิ่มน้ำอุปโภค-บริโภคแต่ละบ่อ 12 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี พร้อมส่งมอบบ่อบาดาลโรงเรียนจอมศรีพิทยาคาร
นอกจากการติดตามมาตรการช่วยเหลือต่างๆของภาครัฐ ช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรี จะประชุมร่วมกับกลุ่มจังหวัดภาคอีสานตอนบน โดยเฉพาะเพื่อรับทราบปัญหา อุปสรรค และ แนวทางแก้ไขภัยแล้งที่ยั่งยืนในพื้นที่