ลุ้น!!ตัดสินคดีจำนำข้าวพรุ่งนี้
วันพรุ่งนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษาในคดีปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเลื่อนการอ่านคำพิพากษาจากวันที่ 25 สิงหาคม หลังจากที่อดีตนายกฯไม่มาปรากฏตัวต่อศาล จนถูกศาลออกหมายจับให้มาฟังคำพิพากษา
โดยตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา ไม่ปรากฏความเคลื่อนไหวใดๆจากนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเมื่อมาถึงวันนี้ สามารถยืนยันได้ชัดเจนแล้วว่าอดีตนายกรัฐมนตรี จะไม่เดินทางไปฟังคำพิพากษา วันพรุ่งนี้แน่นอน
ซึ่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2542 มาตรา 32 บัญญัติไว้ว่า เมื่อศาลออกหมายจับ และไม่ได้ตัวจำเลยมาภายใน 1 เดือนนับตั้งแต่วันออกหมายจับ ให้ศาลอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยได้ และให้ถือว่าจำเลยได้ฟังคำพิพากษานั้นแล้ว
ดังนั้น วันพรุ่งนี้ แหล่งข่าวในศาลฎีกา ยืนยันว่าองค์คณะตุลาการ จะใช้วิธีอ่านคำพิพากษาลับหลัง โดยนายชีพ จุลมนต์ ตุลาการ เจ้าของสำนวน จะประชุมองค์คณะเพื่อให้ผู้พิพากษานำคำวินิจฉัยส่วนตนมาลงมติ จากนั้นจะเขียนคำพิพากษากลาง แล้วเริ่มอ่านลับหลัง
แนวทางของคำพิพากษา จะมีอยู่ 3 แนวทาง 1 คือ ยกฟ้อง ถือว่าทุกอย่างจบ นางสาวยิ่งลักษณ์ ไม่มีความผิด สามารถเดินทางกลับมาได้ โดยไม่มีมลทินติดตัว
แนวทางที่ 2 ศาลตัดสินว่าผิด แต่ให้รอลงอาญา กรณีนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยไม่ต้องถูกควบคุมเข้าเรือนจำ
แต่ถ้าเป็นแนวทางที่ 3 คือ ตัดสินว่าผิดและไม่รอลงอาญา ศาลจะออกหมายจับฉบับใหม่ เพื่อนำตัวจำเลยมาบังคับตามคำพิพากษาภายในอายุความ
โดยหากคำตัดสินออกมาว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ มีความผิด ไม่ว่าจะรอหรือไม่รอลงอาญา หากนางสาวยิ่งลักษณ์ต้องการยื่นอุทธรณ์ต้องเดินทางกลับมาขอยื่นอุทธรณ์ด้วยตัวเอง
ทั้งนี้ คาดว่าหลังมีคำพิพากษาออกมาชัดเจนแล้ว น่าจะมีความเคลื่อนไหวของอดีตนายกรัฐมตรี เพื่อสร้างความกระจ่างให้กับสังคม โดยเฉพาะเรื่องการขอลี้ภัยทางการเมืองที่เป็นข่าวมาตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา จะเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นด้วย