รัฐบาลเดินหน้าปราบผู้เกี่ยวข้องยาเสพติด-อาวุธสงคราม
รัฐบาลเดินหน้าปราบปรามผู้มีอิทธิพลเกี่ยวข้องกับยาเสพติดรายใหญ่ และอาวุธสงคราม อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับสังคม เตือนผู้เกี่ยวข้องหยุดก่อนไร้อิสรภาพ
พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า หน่วยงานความมั่นคงยังคงร่วมกันเดินหน้าปราบปรามผู้มีอิทธิพลตามนโยบายรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และอาวุธสงคราม ซึ่งบ่อนทำลายทั้งเสถียรภาพของสังคม และความมั่นคงของชาติ
โดยรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานปราบปรามยาเสพติด ทำงานหนักร่วมกันให้มากขึ้นทั้งการสืบทราบ ขยายผล ติดตามและจับกุมผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและอาวุธสงครามรายใหญ่ ซึ่งมีเครือข่ายเชื่อมโยงกับการฟอกเงินในธุรกิจบังหน้ารูปแบบต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับการดำเนินงานที่ผ่านมา ระหว่าง 1 ต.ค.59-15 ก.ค.60 เจ้าหน้าที่ความมั่นคงทุกฝ่ายได้ร่วมกันติดตามจับกุมผู้มีอิทธิพลรายสำคัญ และยึดยาเสพติดจำนวนมาก มียอดสะสม ประกอบด้วย ยาบ้า 156 ล้านเม็ด เฮโรอีน 360 กิโลกรัม ยาไอซ์ 3,900 กิโลกรัม กัญชาแห้ง 8,700 กิโลกรัม โคเคน 5 กิโลกรัม ยาแก้ไอ 185,000 ขวดและใบพืชกระท่อม 13,500 กิโลกรัม นอกจากนั้น ยังขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้องกับขบวนการจำนวนมาก พร้อมอายัดทรัพย์สิน คิดเป็นมูลค่ามหาศาล ซึ่งปรากฏเป็นผู้ต้องหาทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
นอกจากนั้นยังกวาดล้างจับกุมอาวุธสงคราม อาวุธปืน กระสุน และวัตถุระเบิดได้จำนวนมาก มีผู้เกี่ยวข้องกว่า 30,000 คน ตามที่ปรากฏเป็นข่าวอย่างต่อเนื่อง
พล.ต.คงชีพ ระบุว่า กลุ่มขบวนการผู้มีอิทธิพลด้านยาเสพติด และอาวุธสงคราม เป็นเป้าหมายหลักที่หน่วยงานความมั่นคงให้ความสำคัญ และกำลังจับตาเครือข่ายและผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นมากขึ้น เพื่อสร้างสวัสดิภาพ และเปิดพื้นที่ปลอดภัยให้กับสังคม รวมทั้งให้ประชาชนได้มีเสรีภาพภายใต้กรอบกฎหมายที่ปราศจากการคุกคามจากผู้มีอิทธิพล
ขณะเดียวกันก็ไม่ยอมให้กลุ่มคนที่เอาเปรียบและทำลายสังคม สามารถฟอกตัวอยู่เหนือกฎหมายได้ จึงขอเตือนผู้เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดและอาวุธสงคราม หยุดและถอยห่างออกมาก่อนจะถูกดำเนินการตามมาตรการทางกฎหมาย พร้อมทั้งขอขอบคุณประชาชน ที่เชื่อมั่นการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐมากขึ้นที่ผ่านมา โดยร่วมกันให้ข้อมูลเบาะแสพฤติกรรมผู้มีอิทธิพลในพื้นที่และเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง เป็นผลให้เจ้าหน้าที่รัฐสามารถควบคุมและดำเนินการทางกฎหมายกับกลุ่มอิทธิพลดังกล่าวได้อย่างต่อเนื่องโดยตลอดมา