นายกฯ วอนอย่าขยายปมโขนสร้างความขัดแย้ง ผู้เชี่ยวชาญชี้เป็นวัฒนธรรมร่วมอาเซียน
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวถึงกรณีกระแสความไม่พอใจของกัมพูชาหลังทางการไทยเตรียมเสนอการแสดงโขนเป็นมรดกโลกว่า ขออย่าไปขยายความขัดแย้งอีก แต่สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจว่าไทยไม่ได้ไปสมัครเป็นสมาชิกองค์การยูเนสโก้ เมื่อสมัครเป็นสมาชิกแล้วก็สามารถไปจดทะเบียนได้ แต่อีกประเทศเขาจดทะเบียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นรัฐบาลไทยจึงต้องสมัครเป็นสมาชิกดังกล่าว ซึ่งการจดทะเบียนนั้นไม่ได้หมายความว่าเป็นของคนใดคนหนึ่ง และในอนาคตจะส่งผลไปสู่การจดลิขสิทธิ์สินค้าจีไอ เพราะสินค้าจีไอจะต้องมีที่มา รวมถึงกิจกรรมและการแสดงต่างๆ ที่เป็นของไทยก็จะต้องไปจดทะเบียนไว้ด้วย เนื่องจากเรามีความวิจิตรพิสดาร และการแต่งกายและบทร้องรำต่างๆ ที่มีความงดงาม ซึ่งไม่ใช่เอาไปเปรียบเทียบว่าใครเก่งกว่าใคร เพราะทุกอย่างเป็นของภูมิภาคนี้บนพื้นฐานเดียวกันคือรามายณะ
ส่วนกระแสดังกล่าวจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวหรือไม่นั้น พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสื่อมวลชนที่เข้าไปขยายความว่าจะให้กลายเป็นน้ำผึ้งหยดใหญ่ขึ้นหรือไม่
ด้านนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ระบุว่าประเด็นดังกล่าวไม่กระทบอะไรกับไทย เพราะการขึ้นทะเบียนประเภทนี้ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องเป็นหนึ่งเดียว เพราะปกติการขึ้นทะเบียนมี 2 ประเภท คือ ประเภทที่อยู่ในประเทศ และประเภทแบบภูมิปัญญาที่หลายประเทศมีคล้ายกัน เช่น แทงโก้ มีการขึ้นทะเบียนทั้งของ อุรุกวัย เปรู อาร์เจนตินา และอุรุกวัย หรืออย่างกิมจิ ทางเกาหลีใต้ขึ้นก่อน และ 2 ปีต่อมาเกาหลีเหนือก็ขอขึ้นตาม
ทั้งนี้นายสุจิตต์ วงษ์เทศ นักเขียนและผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ระบุโขน เป็นวัฒนธรรมร่วมของอาเซียน มีในหลายประเทศ ไม่เป็นของใครฝ่ายเดียว หรือพวกเดียว อาจเรียกชื่อต่างๆ กันตามท้องถิ่น แต่หลักฐานพบเก่าสุดในกัมพูชา แล้วส่งแบบแผนให้ไทย, ลาว, พม่า ฯลฯ