น้ำท่วมพื้นที่ภาคกลางยังวิกฤต
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลางหลายจังหวัดยังหนัก ถึงแม้ระดับน้ำจะทรงตัว หลายครอบครัวต้องปิดบ้านหนี เพราะทนอยู่กับสภาพน้ำท่วมต่อไปไม่ไหว
สภาพน้ำท่วมขังในตำบลบางยี่โท อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังหนัก ชาวบ้านที่อาศัยอยู่สองฝั่งแม่น้ำน้อยถูกน้ำท่วมมานานกว่า 4 เดือน ระดับน้ำสูงเกือบ 2 เมตร สภาพความเป็นอยู่ลำบาก ขาดแคลนน้ำดื่มสะอาด ห้องสุขา ชาวบ้านบางรายต้องปิดบ้านหนีไปอาศัยอยู่กับญาติ เพราะทนอยู่กับน้ำท่วมต่อไปไม่ไหว ส่วนที่ยังอยู่จะยกพื้นบ้านให้สูงขึ้นพอใช้เป็นที่หลับนอน แต่ช่วงกลางวันจะร้อนมากต้องไปอาศัยตามร่มไม้ริมทาง และมีอาการเครียด
ส่วนเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ได้ลดการระบายน้ำลง เหลือ 270 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เขื่อนพระราม 6 ลดการระบายน้ำลง เขื่อนเจ้าพระยา ไม่เพิ่มการระบายน้ำ ทำให้ระดับน้ำโดยรวมทั้งจังหวัดยังทรงตัว
ส่วนพื้นที่จังหวัดพิจิตร ได้รับผลกระทบจากน้ำที่ท่วมขัง เพราะแม่น้ำยมที่รับน้ำจากจังหวัดสุโขทัย และ จังหวัดพิษณุโลก ยังมีระดับสูง ไม่สามารถระบายน้ำออกได้ วัดวังปลาทู ในอำเภอสามง่าม น้ำเข้าท่วมพระอุโบสถ กุฏิพระ สูงถึง 30-40 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องทำสะพานไม้ชั่วคราวเพื่อเป็นเส้นทางเข้า-ออก บ้านเรือนประชาชนกว่า 600 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ
สำหรับต้นแม่น้ำเจ้าพระยา ในจังหวัดนครสวรรค์ ระดับน้ำเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่ไม่มีฝนตก ทำให้น้ำที่ไหลลงมายังพื้นที่ภาคกลาง ลดลงตามไปด้วย คาดใน 1-2 สัปดาห์ระดับน้ำที่ท่วมขังในหลายชุมชนของจังหวัดจะลดลงจนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติได้
ที่จังหวัดปทุมธานี กำนันผู้ใหญ่บ้านในตำบลกระแชง อำเภอสามโคก ได้ลงเรือออกเตือนภัยชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมให้ระวังสัตว์มีพิษ และคลื่นจากแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนระดับน้ำที่ท่วมขังตลอดแนวสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ยังทรงตัว หากน้ำเหนือไม่ไหลมาเพิ่มน้ำจะเริ่มลดลง