คาดรู้ผลชันสูตรศพ นศ.ตายในห้องขังสัปดาห์นี้
คดีน้องปาล์ม นักศึกษาปี 3 ที่เสียชีวิตจากการเมาแล้วขับจับเป่าแอลกอฮอล์ และไปเสียชีวิตภายในห้องขัง สน.บางนา ล่าสุด เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น โดยตำรวจมุ่งประเด็นไปที่ขั้นตอนการนำตัวนายปาล์ม ไปฝากขังที่ สน.บางนา ว่ามีขั้นตอนใดที่อาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้ คาดจะรู้ผลชันสูตรศพภายในสัปดาห์นี้
ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ลงพื้นที่ไปบริเวณที่ตั้งด่านตรวจ พร้อมกับน้องสาว และเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งเพื่อนทั้ง 2 เล่าเหตุการณ์ในวันนั้นว่า หลังจากปาล์ม น้องสาว และ เพื่อนน้องสาวอีก 2 คน รวมทั้งหมด 4 คน ออกจากร้านสเต๊กมาตามถนนบางนา-ตราด และมาเลี้ยวรถกลับที่แยกบางนา พอเลี้ยวรถกลับก็เจอด่านตรวจพอดี จากนั้นปาล์มได้ลงจากรถไปเป่าตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์
เหตุการณ์เริ่มผิดปกติหลังจากที่ปาล์ม เป่าวัดระดับแอลกอฮอล์ 5 ครั้งแรงๆ จากนั้นไม่นานปาล์มค่อยๆ ฟุบตัวลงที่โต๊ะ เพื่อนน้องสาวที่อยู่ข้างๆได้พยายามปลุกให้ตื่น แต่ปาล์มก็ไม่รู้สึกตัว
จุดผิดปกติอีกครั้งเกิดขึ้นเมื่อตำรวจ 3 นาย นำตัวปาล์มไปขึ้นรถของปาล์มเพื่อไปขังที่ สน.บางนา โดยมีเจ้าหน้าที่ 1 นายขับรถให้ น้องสาวเล่าว่าขั้นตอนนี้เจ้าหน้าที่รีบมากจนน้องสาวยังไม่ทันขึ้นรถด้วยซ้ำ เจ้าหน้าที่ก็ขับรถออกไปแล้ว
น้องสาวได้นั่งรถมอเตอร์ไซด์ของอาสาสมัครตามไป เห็นตำรวจ 1 นาย อุ้มปาล์มขึ้นไปนอนในห้องขัง จากนั้นผ่านไป 15 นาที ตำรวจลงมาบอกว่า ปาล์มเสียชีวิตแล้ว
สาเหตุการเสียชีวิตของนายปาล์ม ยังเป็นปมสงสัยของหลายคน ทีมข่าวไปขอความเห็นจาก นพ.ภานุวัฒน์ ชุติวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันเดียวกันกับทีมนิติเวช รพ. จุฬาลงกรณ์ ชันสูตรคดีนี้ ถึงความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่ผู้ดื่มแอลกอฮอล์ถึงระดับ 170 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต โดยอาจารย์ แสดงความเห็นว่าการทำงานทั่วไปของนิติเวช จะมุ่งประเด็นไปที่ผู้ตายอยู่ในช่วงวัยรุ่น จึงเป็นไปได้ยากว่าจะเสียชีวิตจากฤทธิ์แอลกอฮอล์เพียงอย่างเดียว ดังนั้น การชันสูตรจะต้องตรวจสอบว่ามีการใช้ยา หรือสารอื่นๆ ร่วมด้วยก่อนหน้านั้นหรือไม่ ซึ่งกลุ่มยาที่เสี่ยงให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว คือ ยานอนหลับ ยาเกี่ยวกับโรคหัวใจ หรือ แม้กระทั่งสารเสพติด
ส่วนกรณีนายปาล์ม ไม่มีโรคประจำตัว จะต้องตรวจสอบว่าไม่มีจริงหรือไม่ เพราะบางคนมีโรคประจำตัวแต่ไม่ไปตรวจก็อาจไม่ทราบ ซึ่งทางแพทย์จะวินิจฉัยส่วนนี้ด้วย ทั้งนี้ ระดับแอลกอฮอล์ที่จะออกฤทธิ์รุนแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้ ต้องสูงถึง 500 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น ซึ่งจะขึ้นอยู่กับสุขภาพร่างกายของแต่ละคนด้วย
ด้านพันตำรวจเอก สิทธิภาพ ใบประเสริฐ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เปิดเผยถึงการตรวจสอบข้อเท็จจริงสาเหตุการเสียชีวิตของน้องปาล์ม ว่าขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก ได้ตัดประเด็นการทำร้ายร่างกายออกไปเพราะผลชันสูตรไม่พบร่องรอยการทำร้ายร่างกาย ดังนั้น จะมุ่งประเด็นไปที่ขั้นตอนการเป่าวัดระดับแอลกอฮอล์ไปจนถึงการนำตัวน้องปาล์มไปไว้ในห้องขัง ซึ่งจะต้องหาสาเหตุให้ได้ว่าน้องปาล์มเสียชีวิตด้วยขั้นตอนไหน และจะต้องรอผลชันสูตรแบบละเอียดจากนิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์ โดยคาดว่าจะรู้ผลภายในสัปดาห์นี้จึงจะสามารถสรุปสาเหตุการเสียชีวิตได้
ส่วนการสอบสวนหาผู้กระทำผิด วันนี้ จะสืบพยานทั้งหมด 17 ปาก แบ่งเป็นฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจ จำนวน 7 นาย อาสาสมัคร 4 คน สิบเวรและร้อยเวรที่ สน. 2 นาย และฝั่งผู้เสียชีวิต 4 คน ได้แก่ แม่ น้องสาว และเพื่อนน้องสาวอีก 2 คน