ตำรวจเกาะเต่า ระดมนักดำน้ำ 13 คน พร้อมทีมกู้ภัยออกตามหานักท่องเที่ยวสาวชาวรัสเซียที่หายสาบสูญไปกว่า 22 วัน แบ่งทีมดำน้ำค้นหา 2 ช่วงเช้า-บ่าย เผยจากการดำค้นหาบริเวณอ่าวโฉลกยังไม่พบร่องรอยใดๆ

06.00 น.วันนี้ ที่บริเวณท่าเทียบเรือเกาะเต่า ตำบลเกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ต.ท.โชคชัย สุทธิเมฆ สวญ. สภ.ย่อยเกาะเต่า เดินทางมาตรวจความเรียบร้อยของทีมนักดำน้ำอาสากว่า 13 ชีวิต ก่อนออกปฏิบัติการค้นหา น.ส.วาเลนติน่า โนวาชเฮโนว่า(Valentina Novozhenova) อายุ 23 ปี สัญชาติรัสเซีย นักท่องเที่ยวที่หายตัวไปจากเกาะเต่าเมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้สภาพอากาศสดใสสามารถมองเห็นใต้น้ำได้ดี ประกอบคลื่นในทะเลเงียบสงบ 

สำหรับวันนี้ทีมค้นหาใต้ทะเลจะดำค้นหา 2 ช่วง คือ 06.00 น.ใช้เวลาค้นหา 3 ชั่วโมง และช่วง 14.00 น.โดยจุดแรกบริเวณอ่าวโฉลก ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ใกล้กับที่พักของผู้สูญหาย ความลึกประมาณ 22-25 เมตร โดยนักประดาน้ำ 13 คน แบ่งชุดกันชุดละ 3 ทีม ดำค้นหาใช้เวลาประมาณ 45 นาที แต่ไม่พบหลักฐานใดๆจึงได้เดินทางกลับเข้าฝั่งเพื่อประเมินสถานการณ์ค้นหาในช่วงบ่ายอีกครั้ง 

พ.ต.ท.โชคชัย กล่าวว่า คดีนี้ สภ.เกาะเต่า ได้ร่วมกับฝ่ายสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี นักดำน้ำเอกชน กู้ภัยเกาะเต่า ออกทำการค้นหานักท่องเที่ยว โดยฝ่ายตำรวจได้เร่งดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่คาดว่านักท่องเที่ยวรายนี้จะใช้เส้นทาง พร้อมกับศึกษาพฤติกรรมการเดินทางจากกรุงเทพฯ จนมาถึงเกาะเต่า โดยทำการค้นหาทั้งทางบกและทางน้ำ 

สำหรับเป้าหมายของการออกค้นหาใต้ทะเล อย่างน้อยอาจพบอุปกรณ์ที่ใช้ดำน้ำแบบฟรีไดร์ฟวิ่ง เช่น หน้ากากดำน้ำ เข็มขัดตะกั่ว ตีนกบ เป็นต้น ซึ่งเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวสาวรายนี้นำติดตัวไป จึงอยากให้พบอุปกรณ์อย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อจะสามารถชี้ชัดขึ้นถึงสาเหตุการหายตัวไป ถ้าโชคดีอาจพบตัวจากการคำนวณจากระยะเวลาที่สูญหายประมาณวันที่ 15 หรือ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้จากการสอบถามผู้เชี่ยวชาญการดำน้ำแบบฟรีไดร์ฟวิ่ง พบว่า บริเวณใต้ทะเลอ่าวโฉลกจะมีโขดหิน และอื่นๆ อยู่มากมายซึ่งเป็นไปได้ว่านักท่องเที่ยวอาจเกิดอุบัติเหตุซึ่งเป็นข้อสมมติฐานของทีมสืบสวนและค้นหา ซึ่งทีมค้นหาจะค้นหาตามข้อสมมุติฐานในแต่ละจุดเพื่อหาเหตุผลมาพิสูจน์ในแต่ละข้อจนกว่าจะคลายข้อสงสัย 

นอกจากนี้ยังได้ให้ทีมกู้ภัยเกาะเต่าร่วมกับชาวบ้านออกค้นหาตั้งแต่ชายทะเล และบนภูเขาที่คาดว่า น.ส.วาเลนติน่า จะใช้เส้นทางดังกล่าว