อยุธยา-ชาวนาซื้อน้ำเลี้ยงต้นข้าว
ชาวนาภาคกลางที่ทำนาปรัง กำลังเผชิญปัญหาขาดน้ำเลี้ยงต้นข้าว เนื่องจากกรมชลประทานไม่ปล่อยน้ำเพิ่ม ทำให้ชาวนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยาต้องลงทุนสูบน้ำจากแม่น้ำป่าสัก เข้าคลองชลประทาน
แปลงนา หมู่ 3 ตำบลปากจั่น อำเภอนครหลวง แม้ต้นข้าวจะเขียวชะอุ่ม แต่เป็นเพราะเจ้าของนาต้องคอยซื้อน้ำมาเติม ซึ่งพื้นที่ในโครงการรับส่งน้ำ โครงการนครหลวง ก่อนหน้านี้ทางชลประทานได้ขอความร่วมมือให้ปลูกข้าวนาปีประมาณเดือนเมษายน เพราะต้นทุนน้ำมีน้อย และสามารถปล่อยน้ำในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ปรากฏว่ามีการทำนาปรัง ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมทำให้ขณะนี้ไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าว บางพื้นที่สูบน้ำจากต้นน้ำจนพื้นที่ปลายทางไม่มีน้ำ เกิดปัญหาแย่งน้ำ บางส่วนก็ต้องหาซื้อน้ำเข้านาเอง โดยชุมชนจะนำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ สูบน้ำจากแม่น้ำป่าสักเข้าสู่ระบบคลองชลประทาน ก่อนแจกจ่ายให้ชาวนาที่ประสงค์จะซื้อน้ำ กำหนดราคาไร่ละ 200-400 บาท
สำหรับนาปรัง อายุการปลูกข้าว 3 เดือน ส่วนนาปี อายุประมาณ 6 เดือน โดยลุ่มทิศตะวันออกแม่น้ำเจ้าพระยา อำเภอนครหลวง, อำเภอภาชี และอำเภออุทัย ทำนาล่วงหน้าแล้วเกือบ 100,000 ไร่ อยู่ในสภาวะขาดแคลนน้ำ และยืนต้นตายแล้วนับสิบไร่
ด้าน ดร.ทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน บอกว่า ขณะนี้น้ำในเขื่อนทั่วประเทศ มีมากกว่าปีที่แล้ว ทำให้การบริหารจัดการน้ำในฤดูแล้งเป็นไปตามแผน โดยในเขตชลประทานยังคงจัดสรรน้ำปกติ ไม่ได้เพิ่มการระบายน้ำในพื้นที่ใดเป็นพิเศษ แม้พื้นที่เพาะปลูกข้าวในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยาจะสูงถึง 5.2 ล้านไร่ ก็ตาม