ภัยแล้งรุนแรงขึ้นในหลายพื้นที่
วิกฤตภัยแล้งทวีความรุนแรงขึ้นในหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน และพืชผลทางเกษตร ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
อย่างที่จังหวัดขอนแก่น ภัยแล้งปีนี้หนักสุดในรอบ 20 ปี สำนักงานประมงจังหวัด เตือนเกษตรกรระงับการเลี้ยงปลากระชังในลำน้ำพองตลอดระยะทาง 145 กิโลเมตร เพราะน้ำที่เหลืออยู่จะใช้ได้ถึงปลายเดือนมีนาคมนี้เท่านั้น หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มจะขาดน้ำผลิตประปาเพื่อการอุปโภค-บริโภค พร้อมประสานหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งสูบน้ำกักเก็บตามหนองน้ำธรรมชาติให้ได้มากที่สุดเพื่อแก้ปัญหา
ที่จังหวัดนครสวรรค์ ชาวนาบ้านหนองเต่าที่เสี่ยงปลูกข้าว เมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และจะเก็บเกี่ยวได้ช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้ ต้องยอมปล่อยต้นข้าวที่กำลังออกรวงยืนต้นตายแล้ว เพราะเจอปัญหาน้ำในลำคลองแห้งขอด อีกทั้งไม่สามารถเจาะบ่อบาดาลนำน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้ได้
ขณะที่ชาวนาในอำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ยอมเสี่ยงทำนาปรังทั้งที่รู้ว่าจะไม่มีน้ำจากชลประทานมาหล่อเลี้ยงต้นข้าว จึงลงทุนเจาะบ่อน้ำบาดาลสูบน้ำเข้าแปลงนากันเอง มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นไร่ละ 1,500 บาท
ส่วนโรงสูบน้ำด้วยพลังงานไฟฟ้าบ้านลำนัง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร ต้องหยุดเดินเครื่องสูบน้ำ หลังแม่น้ำยมแห้งขอดจนเห็นผืนทราย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อแปลงนาของสมาชิกในพื้นที่รับผิดชอบ กว่า 1พันไร่
คุณยายสุนโทน อย่างถึง ชาวบ้านในอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี นำเอาภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ โดยการขุดบ่อน้ำตื้น ที่ใช้คนขุดขนาดความลึก 7 เมตร ไว้ข้างบ้านเพื่อนำน้ำมาใช้อุปโภคบริโภค มานานกว่า 30 ปี /ซึ่งขณะนี้มีชาวบ้านใกล้เคียง เริ่มขุดบ่อน้ำตื้นแล้วถึง 43 บ่อ