คณะกรรมการนโยบยการเงิน หรือ กนง.มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ต่อไป เนื่องจากเศรษฐกิจไทย มีแนวโน้มจะขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยในไตรมาส ที่ 1 แผ่วลง และทั้งปีอาจจะขยายตัวไม่ถึง 3.8 % ตามที่ประเมินไว้ได้

ซึ่งเป็นผลมาจากการส่งออกที่ชะลอตัว ซึ่งเป็นผลกระทบจากสงครามการค้า และยังส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนให้ผันผวนหนัก ประกอบกับปัจจัยด้านการเมืองในประเทศ ที่จะมีผลต่อการใช้จ่ายภาครัฐ รวมทั้งนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ที่ยังไม่แน่นอน

ขณะที่การประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน แสดงความกังวลสงครามการค้าจะรุนแรงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง กระทบการส่งออก ขยายตัวต่ำกว่า 3% ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศ ยังต้องรอความชัดเจนทางการเมือง และนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ ฉุดการลงทุนภาครัฐ และเอกชนชะงัก

โดยภาคเอกชนเตรียมยื่นหนังสือปกขาวให้รัฐบาลชุดใหม่ เพื่อสะท้อนปัญหา และข้อเสนอแนะจากภาคเอกชน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว เช่น การจัดตั้งกองทุนนวัตกรรม การกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศ และการพิจารณานโยบายค่าแรง โดยในระยะยาวรัฐบาลควรเน้นเพิ่มขีดความสามารถให้แรงงาน ตลอดจนการลอยตัวค่าแรง และพิจารณาจากขีดความสามารถเป็นหลักในอนาคต