ฟิทซ์ เรตติ้ง ชี้หนี้เสียไทยพุ่งสูงสุดสิ้นปีนี้
ฟิทช์ เรตติ้ง ชี้หนี้เสียประเทศไทยจะพุ่งขึ้นสูงสุดในช่วงสิ้นปี 2560 ไทยมีหนี้เสียมากกว่าจีนในช่วงไตรมาสที่ 1 ปีนี้ เหตุหนี้เสียไทยรวมหนี้สงสัยจะเข้าข่ายหนี้เสียในไตรมาสที่ 1 พุ่งต่อเนื่อง ด้านแบงก์ชาติเผยสัดส่วนหนี้เสียในระบบทั้งหมดพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 6 ปี ยักษ์เรตติ้งลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ของไทย
ฟิทช์ เรตติ้งส์ บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ หรือ เรตติ้ง ชั้นนำระดับโลก เปิดเผยว่า หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan) หรือหนี้เสียเสีย (NPL) ของประเทศไทยจะพุ่งขึ้นสูงสุดในช่วงสิ้นปี 2560 นี้
นายพาร์สัน ซิง ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานสถาบันการเงิน ฟิทช์เรตติ้งส์ กล่าวว่า ถึงแม้ภาวะการเติบโตของเศรษฐกิจไทยต่ำมากในช่วงหลายปีผ่านมา แต่ในขณะเดียวกันดูเหมือนว่าสภาวะแวดล้อมในการทำธุรกิจโดยรวมไม่ได้ดูแย่มากนัก อย่างไรก็ตาม การเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ หรือเงินกู้จากสถาบันการเงินกลับเป็นที่น่าตั้งข้อสังเกต
นอกจากนี้ ในมุมมองของฟิทช์ เรตติ้งส์ มองว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะดูเชื่องช้า ด้วยอัตราการขยายตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปในระดับ 3% ซึ่งสัดส่วนหนี้เสียในระบบการเงินของไทยขึ้นอยู่กับสภาวะ หรือ วงจรเศรษฐกิจไทยจะไปในทิศทางใดเป็นหลัก นอกจากนี้ ฟิทช์ เรตติ้ง กล่าวต่อไปว่า เมื่อเทียบกับมูลค่าหนี้เสียของไทยกับหนี้เสียในจีนแผ่นดินใหญ่ พบว่า หนี้เสีย หรือ Non-Performing Loan และหนี้ที่อยู่ในช่วงระหว่างการจ่ายคืนล่าช้ากว่ากำหนดตั้งแต่ 1-3 เดือนขึ้นไป ที่เรียกว่า Spatial Loan ของธนาคารพาณิชย์ในไทยนั้น มีสัดส่วนมากกว่าจีน
โดยฟิทช์ เรตติ้งส์ ประเมินว่า สิ้นสุดไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมา หนี้เสียของไทยอยู่ที่ 6.6% จีนมีหนี้เสียอยู่เพียง 1.74% ส่งผลให้ฟิทช์ เรตติ้งส์ ลดน้ำหนักการลงทุน และเตือนการลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ของไทย ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สัดส่วนหนี้เสียสุทธิของธนาคารพาณิชย์ในไตรมาสที่ 1 ปีนี้มีถึง 2.94% ของมูลค่าหนี้ทั้งระบบ ซึ่งทำสถิติหนี้เสียสูงที่สุดในรอบ 6 ปี ผ่านมา หรือ นับตั้งแต่ปี 2011