สภาอุตสาหกรรม แนะพัฒนาแรงงานเป็นวาระแห่งชาติ
การเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0 จำเป็นต้องเร่งพัฒนาสินค้าให้ทันกับนวัตกรรมใหม่ ๆ ตามความต้องการของตลาด
ก่อนอื่นมาดูตัวเลขของกำลังแรงงานไทยในปัจจุบันอยู่ที่ 38 ล้านคน เป็นแรงงานในระบบประกันสังคม 14 ล้านคน และนอกระบบ 24 ล้านคน แบ่งเป็น ภาคบริการ มีสัดส่วน 44.9% , ภาคเกษตร มีสัดส่วน 32.5% , ภาคอุตสาหกรรม สัดส่วน 22.5% แม้มีสัดส่วนน้อยแต่ก็สร้างรายได้ให้กับประเทศจำนวนมาก เพราะมีมูลค่าเพิ่มจากการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ หุ่นยนต์ก็เป็นอีกหนึ่งในปัจจัยทางเลือกที่เข้ามาทดแทนแรงงาน โดยเฉพาะด้านที่มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของมนุษย์ ซึ่งความต้องการเพิ่มขึ้นทุกปี
โดยรองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ดูแลด้านแรงงาน สุชาติ จันทรานาคราช ให้ความมั่นใจว่าแม้ความต้องการหุ่นยนต์เพิ่มขึ้น แต่ผู้ใช้แรงงานไม่ต้องกลัวตกงาน เพราะไม่สามารถทดแทนแรงงานที่ขาดแคลนได้ โดยเฉพาะสายอาชีพช่าง ที่ยังคงเป็นความต้องการของตลาด เช่น วิศวกร, ช่างเทคนิค และอาชีวะ แต่การเพิ่มจำนวนแรงงานในวิชาชีพนี้ของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ยังมีไม่เพียงพอ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะค่านิยมของพ่อแม่ที่ต้องการให้ลูกทำงานอยู่ในออฟฟิต
อุปสรรคสำคัญในการก้าวเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 มี 2 ด้านคือ เทคโนโลยี และทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งเทคโนโลยีสามารถหาซื้อจากต่างประเทศได้ แต่ทรัพยากรบุคคล รัฐบาลจำเป็นต้องเข้ามาช่วย โดยผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้ามาแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง เรื่องเร่งด่วนที่สุดคือ การพัฒนาผลิตภาพ หรือ โพรดัก ทิวิตี้ ให้เป็นแรงงานฝืมือที่คุณภาพ เพราะขณะนี้ประเทศไทยถูกจัดอันดับด้าน โพรดัก ทิวิตี้ จากเวที เวิล์ด อิคอโนมิค ฟอร์รั่ม อยู่อันดับที่ 53 จาก 144 ประเทศ ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับประเทศเวียดนาม หากไทยไม่เร่งพัฒนาจะถูกเวียดนามแซงหน้าอย่างแน่นอน