ตัวเลขการลงทุนในอินโดฯ พุ่ง รับการผ่อนคลายกฎ
การแข่งขันกันดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนกำลังเข้มข้นขึ้นทุกขณะ เมื่อประเทศต่าง ๆ พยายามเข็นมาตรการสารพัดรูปแบบ เพื่อจูงใจให้ทุนนอกหลั่งไหลเข้ามาในประเทศของตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับ อินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีผู้บริโภคมากที่สุดของอาเซียน และได้รับความสนใจจากบรรดานักลงทุนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไตรมาสล่าสุดคิดเป็นเม็ดเงินสูงถึง 250,000 ล้านบาท แต่หลายปีที่ผ่านมา นักลงทุนมักจะมองว่าอินโดนีเซียปกป้องธุรกิจท้องถิ่นอยู่มาก มีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบต่าง ๆ บ่อย จนหลายครั้งเป็นอุปสรรคต่อการลงทุน
คณะกรรมการความร่วมมือด้านการลงทุนของอินโดนีเซีย รายงานมูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในไตรมาสแรกปี 2559 สูงถึง 250,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยจีนเป็นประเทศที่มีมูลค่าการลงทุนสูงที่สุด ในอุตสาหกรรมกระดาษและเยื่อกระดาษ รวมถึงอุตสาหกรรมสารเคมีตั้งต้น
ทั้งนี้เป็นผลมาจากช่วงต้นปีนี้ รัฐบาลอินโดนีเซียได้ออกนโยบายใหม่ ที่พร้อมเปิดเสรีภาคอุตสาหกรรมหลายกลุ่มให้นักลงทุนต่างชาติมากขึ้น บางประเภทนักลงทุนต่างชาติสามารถดำเนินกิจการได้เอง 100% ไม่จำเป็นต้องจับมือเป็นพันธมิตรกับคนท้องถิ่น เช่น ทางด่วน การผลิตและจัดจำหน่ายภาพยนตร์ ห้องเย็น ร้านอาหาร และการบริหารจัดการขยะที่ไม่มีพิษ
ในขณะเดียวกัน ยังได้เพิ่มเพดานการถือหุ้นของต่างชาติในหลายอุตสาหกรรม เช่น สนามกอล์ฟ บริการสนับสนุนด้านสุขภาพ และบริการสนับสนุนด้านสนามบิน เป็น 67% อีกด้วย
ด้านนาย โจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ประกาศว่า การเปิดเสรีครั้งนี้ถือเป็นรอบแรกเท่านั้น และจะมีรอบสองและสามตามมาอีก โดยจะมีการปรับเปลี่ยนกฎในธุรกิจ 49 กลุ่ม โดยคาดว่าจะมีการประกาศอย่างชัดเจนภายในช่วงกลางปี 2559 กิจการที่เป็นที่น่าจับตามอง คือ ธุรกิจค้าปลีก ประมง และเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งปัจจุบันยังคงสงวนไว้ให้เฉพาะ ชาวอินโดนีเซียเท่านั้น อย่างไรก็ดี กิจการด้าน Logistics มีแนวโน้มคงสัดส่วนการลงทุนเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ การปฏิรูปกฎระเบียบการลงทุนจากต่างประเทศเป็นส่วนหนึ่งของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับที่ 10 ของอินโดนีเซียที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศที่ชะลอลงตั้งแต่ปี 2552 ขณะเดียวกัน รัฐบาลอินโดนีเซียก็ยังคาดหวังด้วยว่า บริษัทท้องถิ่นเองก็จะพยายามปรับตัวเองให้ทันสมัย เพื่อแข่งขันในเวทีท้องถิ่นและเวทีโลกได้ดียิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแต่ละปีอินโดนีเซียจะสามารถดึงดูดการลงทุนได้มหาศาล แต่ต้องยอมรับว่านักลงทุนต่างชาติจำนวนไม่น้อยต้องเผชิญกับข้อจำกัดด้านการลงทุน อาทิ การห้ามต่างชาติลงทุนในกิจการบางอย่างในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ การออกมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี และกดดันต่างชาติที่ทำธุรกิจเหมืองแร่ลดสัดส่วนการถือหุ้นกิจการที่ทำอยู่แล้ว