ทรัมป์ไม่หยุดเดินหน้าขู่ถล่มเกาหลีเหนือ
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสารเตือนเกาหลีเหนืออีกครั้ง ระบุชัดกองทัพสหรัฐฯจัดเตรียมอาวุธยุทโธปกรณ์พร้อมโจมตีเกาหลีเหนือทุกเมื่อ
ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า หากนายคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือลงมือกระทำการอันเป็นภัยคุกคามกับดินแดนสหรัฐฯหรือพันธมิตรของสหรัฐฯ นายคิมจิงอึนจะต้องสำนึกและเสียใจแน่นอน ส่วนประโยคที่ว่า"กองทัพเตรียมอาวุธพร้อมโจมตี "มีความหมายที่ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องอธิบายให้มากความ
คำเตือนครั้งนี้มีขึ้นหลังประธานาธิบดีทรัมป์ได้หารือพูดคุยกับ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯและ นิกกี้ ฮาเลย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯแห่งสหประชาชาติ เกี่ยวกับสถานการณ์เกาหลีเหนือที่ค่อนข้างตึงเครียด
อย่างไรก็ตาม ผู้นำสหรัฐฯกล่าวว่า สถานการณ์อาจคลี่คลายไปในทางที่ดีหรือร้ายได้ทั้งสิ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องรอดูกันต่อไป แต่ก็ย้ำปิดท้ายว่า ไม่มีใครรักการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธีดีกว่าประธานาธิบดีทรัมป์อีกแล้ว
ขณะเดียวกัน กองทัพสหรัฐฯแถลงเดินหน้าฝึกซ้อมรบร่วมกับกองทัพเกาหลีใต้ตามกำหนดการเดิมเป็นเวลา 10 วัน ส่งผลให้หลายฝ่ายวิตกว่าสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีจะเลวร้ายมากขึ้น
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คำขู่ระหว่างสหรัฐฯกับเกาหลีเหนือทำให้สถานการณ์ทวีความตึงเครียด โดยเกาหลีเหนือขู่โจมตีเกาะกวม ฐานทัพสำคัญของสหรัฐฯในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ขณะที่สหรัฐฯโต้กลับอย่างแข็งกร้าวพร้อมจัดการเกาหลีเหนือ รวมถึงโค่นล้มระบอบการปกครองของคิมจองอึน
แม้ผู้นำสหรัฐฯจะเชื่อมั่นว่าท่าทีและจุดยืนของตนจะได้รับแรงสนับสนุนจากนานาประเทศ โดยเฉพาะญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ แต่ผู้นำประเทศส่วนใหญ่ต่างตำหนิการกระทำของทรัมป์ เพราะอาจเป็นการยั่วยุกดดันเกาหลีเหนือจนอาจก่อสงครามนิวเคลียร์ขึ้น ภายใต้ข้ออ้างว่าเป็นการป้องกันตัวจากการคุกคามของสหรัฐฯ
จีนและรัสเซียออกแถลงการณ์ขอให้ทุกฝ่ายอดทนอดกลั้น และยุติการกระทำทุกอย่างที่จะยั่วยุอีกฝ่าย โดยเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เรียกร้องให้สหรัฐฯกับเกาหลีเหนือ ร่วมลงนามในข้อตกลงที่่รัสเซียกับจีนร่วมกันร่างขึ้น โดยมีใจความหลักให้เกาหลีเหนือยุติโครงการทดสอบขีปนาวุธ และให้สหรัฐฯกับเกาหลีใต้ยุติปฎิบัติการซ้อมรบร่วม
ด้านนายกรัฐมนตรีแองเกลา แมร์เกิล ของเยอรมนีกล่าวว่า การใช้กำลังทหารไม่ใช่ทางออกของปัญหา การเจรจาและความร่วมมือร่วมใจอย่างแข็งขันจากนานาประเทศ โดยเฉพาะจีนกับสหรัฐฯ เท่านั้นที่จะยุติเรื่องราวทั้งหมดได้ แต่ไม่กี่ชั่วโมงถัดมา ประธานาธิบดีทรัมป์ก็ตอบว่า ปล่อยให้แมร์เกิลพล่ามไป
ขณะที่จีน พันธมิตรหนึ่งเดียวของเกาหลีเหนือ วิงวอนให้ทุกฝ่ายช่วยหาทางคลี่คลายสถานการณ์ รวมถึงเพิ่มความเชื่อใจระหว่างกันให้มากขึ้น ก่อนย้ำว่า คำพูดและท่าทีแข็งกร้าวมีแต่จะทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปในทิศทางที่เลวร้าย
ทั้งนี้ ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ มีกำหนดจะโทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนในคืนนี้ ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ของเกาหลีเหนือ ซึ่งทรัมป์แสดงความเห็นมาโดยตลอดว่ารัฐบาลจีนกดดันเกาหลีเหนือไม่เพียงพอ