ศึกไพรมารีที่รัฐนิวแฮมเชอร์ ชี้อนาคตเลือกตั้งอเมริกา
ผลการไพรมารีที่นิวแฮมเชอร์ออกมาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งผลปรากฏว่า ผู้ชนะของทั้ง 2 พรรค กลับเป็นผู้สมัครที่ไม่ใช่นักการเมืองหน้าเก่าในการเมืองสหรัฐฯ ผลการไพรมารีครั้งนี้ชี้ให้เห็นอะไรบ้าง
โฉมหน้าของ 2 ผู้ชนะในการไพรมารี่ที่นิวแฮมเชอร์ ซึ่งครั้งนี้ชัยชนะเป็นของ Outsider หรือ"คนนอก"เพราะทั้งเบอร์นี แซนเดอร์ส และโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ใช่กลุ่มการเมืองเดิมที่กุมอำนาจในวอชิงตัน หรือที่เรียกกันว่า establishment ซึ่งมักมีสัมพันธ์อันดีกับนักธุรกิจในวอลล์สตรีท ซึ่งชาวอเมริกันรุ่นใหม่มองว่า มีอิทธิพลเหนือการเมืองสหรัฐฯ และอยู่เบื้องหลังภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
ในส่วนของพรรครีพับลิกัน ผู้ที่ไปโหวตเกือบครึ่ง บอกว่า รู้สึกเหมือนถูกพรรคหักหลังและกำลังมองหาผู้สมัครคนนอก ทำให้ส่วนใหญ่หันไปสนับสนุน ทรัมป์ ที่ไม่เคยมีตำแหน่งในแคปิตอล ฮิลล์ มาก่อน โดยทรัมป์ได้คะแนนเสียงได้ทั้งจากรีพับลิกันดั้งเดิมและที่ไม่สังกัดพรรค รวมทั้งยังได้เสียงจากกลุ่มที่ใช้สิทธิไพรมารีครั้งแรก และที่น่าจับตาทรัมป์ยังโกยคะแนนจากกลุ่มรายได้ต่ำและมีการศึกษาน้อย ที่ไม่ใช่กลุ่มผู้สนับสนุนดั้งเดิมของรีพับลิกันด้วย ซึ่งหากทรัมป์ได้เป็นตัวแทนพรรค ก็น่าจะเป็นการเปลี่ยนโฉมพรรคครั้งสำคัญ
ส่วนแซนเดอร์ส แม้จะเป็นวุฒิสมาชิกของรัฐเวอร์มอนต์มาหลายสมัย และเพิ่งจะเข้าสู่พรรคเดโมแครตเมื่อปีที่แล้ว ได้คะแนนจากคนรุ่นใหม่อายุไม่เกิน 30 ปี กลุ่มลิเบอรัล กลุ่มผู้มีรายได้น้อย และผู้ที่ไม่สังกัดพรรค ผิดกับนางฮิลลารี คลินตัน ที่ผู้สนับสนุนส่วนใหญ่มักเป็นผู้สูงอายุในวัย 65 ปีขึ้นไป กลุ่มผู้มีรายได้สูง และสมาชิกเดโมแครตที่เป็นพวกสายกลาง
ผู้คร่ำหวอดในแวดวงการเมืองสหรัฐฯ บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า การเลือกตั้งรอบนี้คาดเดาได้ยากที่สุดเท่าที่มีมา แต่กว่าจะรู้ผลว่าใครจะได้เป็นตัวแทนพรรค ก็ต้องไปสู้กันในศึก Super Tuesday ในวันที่ 1 มีนาคมนี้