เนเธอร์แลนด์จัดเลือกตั้งระดับชาติชี้จุดยืนประชาชน
ชาวเนเธอร์เเลนด์ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้เเทนราษฎร ซึ่งถูกมองว่าจะเป็นบทพิสูจน์ว่าพรรคการเมืองแนวนโยบายขวาจัดกำลังเป็นที่นิยมในหมู่ชาวยุโรปจริงหรือไม่
การเลือกตั้งของเนเธอร์แลนด์กำลังจะพิสูจน์ว่าชาวยุโรปเริ่มหันมานิยมพรรคการเมืองที่มีแนวโยบายขวาจัดมากขึ้นจริงหรือไม่ หลังจากปีก่อน การลงประชามติเบร็กซิต และผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีแนวโน้มถึงความนิยมดังกล่าว
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้เเทนราษฎรทั้ง 150 ที่นั่งของเนเธอร์แลนด์ มีพรรคการเมือง 2 พรรคใหญ่ขับเคี่ยวกัน คือ พรรคประชาชนเพื่อเสรีภาพและประชาธิปไตย (VVD) ซึ่งมีนโยบายสายกลางของนายกรัฐมนตรีมาร์ค รูเทอร์ และพรรคการเมืองขวาจัดอย่างพรรคเสรีภาพ (PVV) ของนายเคียร์ต วิลเดอร์ส
ก่อนหน้านี้ นายรูเทอร์ปราศรัยหาเสียงที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองเฮก ระบุว่า การเลือกตั้งจะทำให้รู้ว่าการดำเนินนโยบายประชานิยมแบบผิดๆ ยังมีอยู่จริง ซึ่งผลการเลือกตั้งจะพิสูจน์ว่าจะสามารถโค่นแนวนโยบายดังกล่าวได้หรือไม่ เช่นเดียวกับการเลือกตั้งระดับชาติของฝรั่งเศสที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนเมษายน และพฤษภาคม รวมถึงการเลือกตั้งของเยอรมนีในเดือนกันยายนนี้ด้วย
ขณะที่ นายวิลเดอร์ส นักการเมืองที่เป็นที่รู้จักดีในแวดวงการเมืองที่มีสไตล์ชอบวิพากษ์วิจารณ์ศาสนาอิสลาม และเคยถูกฟ้องร้องในข้อหายุยงให้เกิดความเกลียดชังต่อเชื้อชาติ ได้กล่าวว่า นักการเมืองที่เข้มแข็งต้องกล้าที่จะแตกต่าง และทำสิ่งที่ประชาชนต้องการ ไม่ใช่ฟังแต่เสียงของชนชั้นสูงในสังคม
การเลือกตั้งครั้งนี้มีประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งราว 13 ล้านคน จากทั้งหมดราว 19 ล้านคน นักวิเคราะห์มองว่าน่าจะมีประมาณ 6 พรรค ที่จะมีโอกาสมีส่วนร่วมในการจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่ผลเอ็กซิตโพลล์อย่างไม่เป็นทางการหลังปิดการลงคะแนนตามรายงานข่าวของสำนักข่าว AP ชี้ว่า พรรค VVD ของนายรูเทอร์กำลังมีคะแนนนำ
การเลือกตั้งครั้งนี้จัดขึ้นท่ามกลางประเด็นทางการเมืองระหว่างเนเธอร์แลนด์กับตุรกีที่กำลังตึงเครียด หลายฝ่ายมองว่าก่อนหน้านี้สงครามน้ำลายระหว่าง 2 ประเทศ สร้างความปั่นป่วนให้การเลือกตั้งระดับชาติไม่น้อย ทำให้ต้องติดตามกันต่อไปว่าความขัดแย้งดังกล่าวจะกระทบผลการเลือกตั้งหรือไม่