2016 ปีแห่งสภาพอากาศแปรปรวน
ข้อมูลจากเว็บไซต์วอชิงตันโพสต์ ระบุว่าองค์กร The National Oceanic and Atmospheric Administration และนาซา ได้ประกาศว่า ปีที่แล้วเป็นปีที่อบอุ่นที่สุดตั้งแต่เคยเป็นมาบนโลก โดยหากรวมปี 2015 ด้วยแล้ว 15 ปี จาก 16 ปีที่อบอุ่นที่สุด เกิดขึ้นหลังจากปี 2000 ซึ่งจริง ๆ แล้วมีการวัดเกิดขึ้น นับ 136 ปี
นอกจากนี้ ที่ผ่านมา ยังเกิดธารน้ำแข็งทั่วโลกละลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น นาซาระบุว่า ระดับน้ำทะเลได้เพิ่มขึ้นจาก 1 มิลลิเมตร ต่อปี เมื่อประมาณ 100 ปีก่อนมาเป็น 3 มิลลิเมตรต่อปี ในขณะนี้ ซึ่งเมื่อระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้น ก็ทำให้หลายพื้นที่มีโอกาสที่จะเกิดน้ำท่วมเพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น ทั้งในอากาศและทะเลแล้ว สิ่งหนึ่งที่อาจชี้ให้เห็นได้ถึงภาวะโลกร้อนก็คือ สภาพอากาศที่แปรปรวนทั่วโลกหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านอากาศของสหรัฐฯ ระบุว่า อาการแปรปรวนในปีนี้ อาจเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นกับสหรัฐฯ เมื่อปี 1965 เมื่อครั้งที่สหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนิโญ
ปรากฎการณ์เอลนิโญ เกิดเมื่อกระแสน้ำอุ่นพัดมาแทนที่กระแสน้ำเย็นใน บริเวณเส้นศูนย์สูตรของมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก ทำให้กระแสน้ำน้ำเย็นด้านล่าง หมุนวนขึ้นมาที่ขึ้นผิวทะเลไม่ได้ อุณหภูมิผิวน้ำทะเลจึงสูงขึ้น ห่วงโซ่อาหารก็ไม่ปกติ จำนวนปลาลดลง ส่วนอากาศบริเวณเหนือน้ำทะเลเมื่อมีอุณหภูมิสูง จึงลอยตัวขึ้นหลังจากนั้นก็กลั่นตัวเป็นฝนและตกอย่างหนักในตอนเหนือของอเมริกาใต้ ซึ่งนอกจากฝนตกหนักในแถบนั้นแล้ว ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากเอลนิโญก็คือยังทำให้เกิดความแห้งแล้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลีย รวมถึงไฟไหม่้ป่าอย่างรุนแรงในอินโดนีเซียด้วย
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลที่ยืนยันได้ว่าสภาพอากาศแปรปรวนที่เกิดขึ้นในช่วงหลัง ๆ นี้เกิดจะสาเหตุใดแน่ และผู้เชี่ยวชาญก็ยังชี้ว่าปรากฎการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น น้ำแข็งละลาย น้ำทะเลสูงขึ้นนั้น ไม่สามารถบ่งชี้ได้แน่ชัดว่า เป็นเพราะโลกร้อน