รัฐบาลอินโดนีเซียวางศิลาฤกษ์รถไฟความเร็วสูง
รัฐบาลอินโดนีเซีย ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ เริ่มต้นลงทุนรถไฟความเร็วสูงสายแรกของอาเซียน มูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท โดยมีจีนเป็นผู้สนับสนุนด้านเงินทุนและเทคโนโลยี
นอกจากนี้รัฐบาลอินโดนีเซีย ยังเตรียมผ่อนคลายกฏระเบียบ ให้นักลงทุนต่างชาติลงทุนในธุรกิจท่องเที่ยวได้เสรีมากขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยงจากรายได้ที่พึ่งพิงน้ำมันมากเกินไป
ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย นายโจโค วิโดโด้ เข้าร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์รถไฟความเร็วสูงอินโดนีเซีย ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้ลงนามในแผ่นจารึกบนก้อนหินที่เมืองวาลินี ในจังหวัดชวาตะวันตก เพื่อเปิดเส้นทางรถไฟจากกรุงจาการ์ตาถึงเมืองบันดุงเป็นระยะทาง 142 กิโลเมตร คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จในปี 2019 มูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท
ทั้งนี้บริษัท พีที เคเรต้า เซปัต อินโดนีเซีย-จีน จะรับผิดชอบโครงการนี้ ซึ่งเป็นโครงการร่วมลงทุนระหว่างกลุ่มบริษัทก่อสร้างที่รัฐบาลอินโดนีเซียเป็นถือหุ้นใหญ่ ร่วมกับเอกชน 4 บริษัทของอินโดนีเซีย และบริษัทไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ภายใต้เงื่อนไขว่า จีนจะสร้างรถไฟสายนี้โดยไม่ใช้งบประมาณของรัฐบาลอินโดนีเซีย
ในขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างรายงานว่า รัฐบาลยังจัดทำระเบียบและใบอนุมัติ รวมถึงปรับเปลี่ยนกฎหมายว่าด้วยมาตรฐานทางเทคโนโลยียังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งกระบวนการที่ใช้เวลานานนี้นับว่าเป็นจุดอ่อนของอินโดนีเซียมาโดยตลอด
อย่างไรก็ดีรัฐบาลอินโดนีเซีย ให้คำมั่นว่า จะเร่งกระบวนการให้แล้วเสร็จเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังคาดหวังว่า รถไฟความเร็วสูงนี้จะช่วยลดปัญหาการจราจรและส่งเสริมภาคการท่องเที่ยว เพื่อกระจายความเสี่ยงจากราคาน้ำมันที่มีความผันผวน โดยคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนของอินโดนีเซีย เตรียมอนุมัติให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมากขึ้น
โดยชาวต่างชาติจะมีสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของบาร์ คาเฟ่ ร้านอาหาร ศูนย์ออกกำลังกาย สนามกอล์ฟ สปา ศูนย์จัดการประชุม โรงแรมและสำนักงานท่องเที่ยว โดยไม่ต้องมีพันธมิตรท้องถิ่น
จากปัจจุบันที่มีสิทธิ์ถือหุ้นได้ 49-51% ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนเมษายนนี้